ร.152 พัน.1 รวมใจทำความดี พัฒนามัสยิดบ้านหน้าเกษตร สานสัมพันธ์ชุมชนด้วยพลังจิตอาสา

ร.152 พัน.1 รวมใจทำความดี พัฒนามัสยิดบ้านหน้าเกษตร สานสัมพันธ์ชุมชนด้วยพลังจิตอาสา


📅ันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ มัสยิดบ้านหน้าเกษตร หมู่ที่ 2 ตำบลธารโต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา พันโท อิสระพงศ์ บุญมา ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 152 นำกำลังพลพร้อมด้วย ร้อยโทจิรันธนิน พูลสวัสดิ์ นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน และชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนของหน่วย ร่วมกับ ชุดคุ้มครองตำบลธารโต, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการประจำมัสยิดบ้านหน้าเกษตร จัดกิจกรรม “จิตอาสาพัฒนาบำเพ็ญประโยชน์ ทำความดีด้วยหัวใจ”



🌈 กิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งพัฒนาปรับภูมิทัศน์และทำความสะอาดบริเวณโดยรอบมัสยิด เพื่อให้เป็นสถานที่ที่สะอาด สวยงาม และเอื้อต่อการประกอบศาสนกิจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นการ ถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ 2 มหาราช ได้แก่
• พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องใน “วันปิยมหาราช” 23 ตุลาคม 2568
• พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” 13 ตุลาคม 2568 รวมถึงถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา ประจำเดือนตุลาคม 2568




🟡 บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ต่างร่วมแรงร่วมใจทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยความตั้งใจ โดยคณะกรรมการมัสยิดได้กล่าวขอบคุณกำลังพลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศาสนสถานในชุมชน สานสัมพันธ์อันดีระหว่าง “ทหารกับประชาชน” ที่ยังคงแน่นแฟ้นและอบอุ่นเสมอ

ทหารพราน 41 รวมพลังจิตอาสา พัฒนาวัดวชิรปราการ เตรียมความพร้อมต้อนรับวันกฐินพระราชทาน

ทหารพราน 41 รวมพลังจิตอาสา พัฒนาวัดวชิรปราการ เตรียมความพร้อมต้อนรับวันกฐินพระราชทาน 



📅 วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 โดย ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4111 พร้อมด้วย กำลังพลจิตอาสาและชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน ร่วมกับ ผู้นำท้องที่ ,ผู้นำท้องถิ่น ,กลุ่มเยาวชน , กลุ่มสตรี และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ รวมพลังกันทำกิจกรรม “เราทำความดีด้วยใจ” เป็นการบำเพ็ญประโยชน์พัฒนาและปรับภูมิทัศน์บริเวณวัดวชิรปราการ บ้านศาลเก่า หมู่ที่ 2 ตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันสำคัญ “วันทอดกฐินพระราชทาน” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม 2568 นี้



📌 โดยทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาดบริเวณวัด กวาดลานวัด ตัดหญ้า เก็บเศษขยะ ทาสีรั้ว และจัดตกแต่งพื้นที่ให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้ศาสนสถานเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และร่มรื่นสำหรับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานบุญ

📌 ทั้งนี้ในกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการปลูกจิตสำนึกด้านจิตอาสาและการรักษาความสะอาดในชุมชน สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออันแน่นแฟ้นของทุกภาคส่วนในการพัฒนาพื้นที่ให้น่าอยู่และเปี่ยมด้วยความศรัทธา






#แม่ทัพภาคที่4
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์
#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า

ทหารพราน 45 ร่วมใจซ่อมบ้าน ช่วยเหลือประชาชนหลังพายุพัดเสียหาย

ทหารพราน 45 ร่วมใจซ่อมบ้าน ช่วยเหลือประชาชนหลังพายุพัดเสียหาย


🌧️ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา กองร้อยทหารพรานที่ 4506 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 พร้อมกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนของหน่วย ลงพื้นที่ร่วมกับประธานญาลันนันบารู ,ผู้นำหมู่บ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านบูเก๊ะปือเร๊าะห์ ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ดำเนินการซ่อมแซมและเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาบ้านให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ 



📌 การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งภารกิจแห่งความห่วงใย ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือประชาชนในยามเดือดร้อน และพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความอบอุ่นใจและความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์อันดีระหว่างทหารกับประชาชนในพื้นที่ต่อไป






#แม่ทัพภาคที่4
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์
#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า

ทีมเยียวยา ศอ.บต. และอำเภอระแงะ เข้าเยี่ยมครอบครัวอาสาสมัครทหารพราน นาซือรี แวสะมะแอ เสียชีวิตจากเหตุลอบยิง เพื่อให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา

ทีมเยียวยา ศอ.บต. และอำเภอระแงะ เข้าเยี่ยมครอบครัวอาสาสมัครทหารพราน นาซือรี แวสะมะแอ เสียชีวิตจากเหตุลอบยิง เพื่อให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา


วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา ศอ.บต. นำโดย นางนิตยา มุทามาศ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเยียวยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาอำเภอระแงะ ลงพื้นที่ หมู่ที่ 10 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา และเข้าเยี่ยมครอบครัว อาสาสมัครทหารพราน นาซือรี แวสะมะแอ อายุ 37 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิง โดยทีมเยียวยาได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบข้าวสารจำนวน 1 กระสอบ และเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม นางสาวตีดายะ ดาโอ๊ะ (ภรรยาผู้เสียชีวิต) ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการหกล้มขณะวิ่งหนี เนื้อเยื่อบริเวณเท้าข้างขวาอักเสบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ




📌 ทั้งนี้ ศอ.บต. โดยจังหวัดนราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา กรณีเสียชีวิตตามหลักเกณฑ์ แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท ให้แก่ทายาท จำนวน 4 ราย คือ บิดา มารดา ภรรยา และบุตร จำนวน 1 คน โดยมี นายวิมุตติ อำนักมณี นายอำเภอระแงะ เป็นผู้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา และชี้แจงสิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดต่อไป

#แม่ทัพภาคที่4 #ศูนย์ประชาสัมพันธ์
#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า





แม่ทัพภาคที่ 4 มอบนโยบายขับเคลื่อนสันติสุขชายแดนใต้ ปี 2569 มุ่งสร้างความมั่นคงและพัฒนาทุกมิติ ภายใต้ยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”

แม่ทัพภาคที่ 4 มอบนโยบายขับเคลื่อนสันติสุขชายแดนใต้ ปี 2569 มุ่งสร้างความมั่นคงและพัฒนาทุกมิติ ภายใต้ยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”


📍ันนี้ (14 ตุลาคม 2568) เวลา 09:30 น. ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานมอบนโยบายการปฏิบัติงาน และแถลงแผนขับเคลื่อนการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2569 โดยมีผู้บังคับบัญชาจากหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมรับมอบนโยบายอย่างพร้อมเพรียง
🗣️ พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าว แถลงนโยบายว่า “ก่อนอื่น ผมขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ให้ความสนใจและร่วมติดตามแนวทางการขับเคลื่อนงานของกองทัพภาคที่ 4 และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในการดำเนินงานเสริมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้




💢 การประชุมในวันนี้ เป็นการกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันของทุกหน่วย เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจในปี 2569 มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสานต่อนโยบายเพื่อสันติสุข เสริมสร้างความต่อเนื่อง และดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจด้านความมั่นคง ตลอดจนการพัฒนาทุกมิติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ ยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสันติสุขอย่างแท้จริง โดยมีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา และมีการบูรณาการประสานสอดคล้อง ตลอดจนความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งต่อยอดและสานต่อโครงการ ตลอดจนแนวนโยบายต่าง ๆ ที่ดำเนินอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างประโยชน์และความสุขให้กับพี่น้องประชาชน โดยสิ่งแรกที่จะเป็นสารตั้งต้น และเป็นพลังสำคัญที่จะทำให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน นั่นคือ ความสามัคคีของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทหาร และตำรวจ ที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่ มีความปรารถนาสูงสุด คือ การสร้าง ‘สันติสุขอย่างยั่งยืน’ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญให้การพัฒนาในทุกมิติของจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง”



💂 พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจากนี้จะดำเนินการในเรื่อง การรักษาความปลอดภัยให้กับนักเรียน ครู พระภิกษุ และกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชนและภาคประชาสังคม เพื่อให้ทุกการปฏิบัติดำเนินไปภายใต้กรอบของกฎหมายเดียวกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม พร้อมทั้งได้เน้นย้ำ ให้เพิ่มความเข้มงวดด้านการข่าว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการก่อเหตุรุนแรงในทุกมิติ รวมทั้งปรับปรุงแผนการรักษาความปลอดภัยของฐานปฏิบัติการ ให้มั่นคงปลอดภัยยิ่งขึ้น
📌 ในขณะเดียวกัน ผมได้กำชับให้ทุกหน่วยดำเนินงานด้านการเมืองควบคู่ไปกับภารกิจทางทหาร โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน การคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของพี่น้องในพื้นที่ และการประสานความร่วมมือ จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคศาสนา ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดพลังร่วมในการขับเคลื่อนสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน



✨ ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ย้ำว่า “สิ่งสำคัญที่สุด คือ เราจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มกำลัง และทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย มีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่รัฐ และสามารถดำเนินชีวิต ได้อย่างปกติสุขในทุกพื้นที่ จึงเน้นให้ทุกหน่วยรักษามาตรฐานความพร้อมสูงสุด ทั้งในด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และการประสานงาน เพื่อให้สามารถตอบสนอง ต่อสถานการณ์ ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
✍️ ท้ายที่สุด แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน กำลังพล และประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด พร้อมย้ำว่า “ความร่วมมือของทุกภาคส่วน คือพลังสำคัญที่จะนำพาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยอย่างยั่งยืน”



ไม่เอาBRN ไม่เอาความรุนแรง หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์

ไม่เอาBRN ไม่เอาความรุนแรง หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์


📌 พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือดินแดนแห่งวัฒนธรรมอันหลากหลาย ที่พี่น้องชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างเอื้อเฟื้อและเคารพในความแตกต่างมาช้านาน แต่ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ความสงบสุขในพื้นที่ถูกท้าทายจาก กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มุ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนทุกศาสนา โดยไม่เลือกเป้าหมาย ทั้งพระสงฆ์ ครู เด็ก และประชาชนผู้บริสุทธิ์ต่างตกเป็นเหยื่อ
📌 ตลอดปี 2568 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เลือกเป้าหมายว่าจะเป็นชาวไทยพุทธหรือไทยมุสลิม จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือการสร้างความหวาดกลัว ทำลายความสงบสุข และบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในสังคมพหุวัฒนธรรมที่เราทุกคนเคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติมาโดยตลอด
กลุ่มเหล่านี้ใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือ มุ่งเป้าไปที่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ผู้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดกลัวจนไม่กล้าใช้ชีวิตตามปกติ ไม่กล้าประกอบอาชีพ และค่อยๆ สูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจกันเอง ซึ่งจะนำไปสู่การอ่อนแอของสังคมโดยรวม เหตุการณ์หลายครั้งในปีนี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงความโหดเหี้ยมของกลุ่มก่อเหตุ เช่น เหตุกราดยิงในจังหวัดนราธิวาส ที่ทำให้เด็กวัยเพียง 9 ขวบต้องเสียชีวิต , เหตุลอบยิงแม่ลูก ขณะลูกพาแม่ตาบอดไปโรงพยาบาล จนทั้งคู่เสียชีวิต , เหตุยิงประชาชนในโครงการของรัฐ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุลอบยิงนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม หรือ “นายกอาร์ม” นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ เสียชีวิตกลางที่ประชุม
เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่สร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังบั่นทอนความสัมพันธ์ และความไว้วางใจระหว่างพี่น้องประชาชน ซึ่งเคยอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพ เข้าใจ และเอื้ออาทรต่อกัน
✊ ถึงเวลาแล้วที่ประชาชน ต้องลุกขึ้นปกป้องสันติสุข
วันนี้ เราไม่อาจปล่อยให้ความรุนแรงครอบงำชีวิตของเราได้อีกต่อไป ถึงเวลาที่เราทุกคนจะต้องร่วมกัน ปฏิเสธความรุนแรงจากกลุ่ม BRN เราต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่อง ดูแล และแจ้งเบาะแสเมื่อพบสิ่งผิดปกติ เพื่อปกป้องชีวิตของผู้บริสุทธิ์และรักษาความสงบสุขให้กลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือไทยมุสลิม ทุกคนมีสิทธิ์ในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ไม่ถูกคุกคาม และไม่ต้องอยู่ใต้เงาของความหวาดกลัว
อย่าปล่อยให้ความเงียบเป็นเครื่องมือของความรุนแรง อย่ารอให้ความสูญเสียเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว แล้วจึงลุกขึ้นมาเรียกร้องความยุติธรรม

ไทยรัฐออนไลน์

โพสทูเดย์

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More