กอ.รมน.ภาค 4 สน. รายงานการบังคับใช้กฎหมาย ต่อบุคคลต้องสงสัยให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จชต.
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า
พบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ วันนี้ (19 ธันวาคม 2568)
เวลาประมาณ 03.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ประจำจังหวัดนราธิวาส เข้าบังคับใช้กฎหมายบุคคลต้องสงสัยให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่
จชต.คือนายอับดุลรอฮมาน (สงวนนามสกุล) อาศัยอยู่ ณ บ้านพักในพื้นที่ บ้านตะเหลี่ยง
หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยนายอับดุลรอฮมาน
เป็นผู้ต้องสงสัยให้การสนับสนุนส่งอุปกรณ์ประกอบระเบิด
ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรง คือ
-
เหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณเสาไฟฟ้า ริมถนนสายบานา - แหลมนก ตำบลบานา
อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567
- เหตุลอบวางระเบิดบริเวณ ฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจตํารวจปัตตานี 9223 ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568
โดยการดำเนินการ ของเจ้าหน้าที่ ได้ยึดหลัก ยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และได้เชิญ ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชน หรือผู้นําทางศาสนา เข้าร่วมสังเกตการณ์การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พุทธศักราช 2565 ซึ่งนายอับดุลรอฮมาน (สงวนนามสกุล) ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ได้พบปะ พูดคุย สร้างความเข้าใจกับ บุคคลรอบข้าง และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ให้เข้าใจถึงขั้นตอนและกระบวนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายอับดุลรอฮมาน (สงวนนามสกุล) ลงบันทึกการควบคุมตัวที่ สถานีตำรวจภูธรตากใบ ก่อนส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และเชิญตัว ต่อไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ เพื่อขอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการขยายผลต่อไป
ทั้งนี้
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน
หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่
สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 /
ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค
4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง
ขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น
การนำพาซ่อนเร้น
การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ











0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น