รองแม่ทัพภาคที่ 4 นำกำลังพล เวียนเทียน พร้อมด้วย พระเทพวชิรนายก ชี้ธรรมส่องทางชีวิต ณ เขาพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี

แสงธรรมกลางใจ วิสาขบูชา 2568 รองแม่ทัพภาคที่ 4 นำกำลังพล เวียนเทียน พร้อมด้วย พระเทพวชิรนายก ชี้ธรรมส่องทางชีวิต ณ เขาพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี


📜แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 2,500 ปี นับตั้งแต่วันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และเผยแผ่พระธรรมคำสอนสู่ชาวโลก แต่ “แสงแห่งปัญญา” ที่พระองค์ทรงจุดขึ้น ยังคงส่องสว่างกลางใจของพี่น้องพุทธศาสนิกชนมาจนถึงปัจจุบัน
✨ วันนี้ (11 พฤษภาคม 2568) เวลา 17.00 น. ที่ เขาพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระศรีศากยมุนีพุทธโคดม เนื่องในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 วันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นวันสำคัญที่ทุกคนได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงองค์พระศาสดา ผู้จุดเทียนกลางใจให้กับพี่น้องชาวพุทธทั่วโลก และยังเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เสริมสิริมงคลให้กับชีวิต รวมไปถึงสืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม โดยมี พระเทพวชิรนายก เจ้าคณะจังหวัดยะลา / เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายทหารชั้นสัญญาบัตร นายทหารชั้นประทวน กำลังพลและครอบครัวภายในค่ายสิรินธร และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ร่วมในพิธีด้วยความอบอุ่น




🧡 โอกาสนี้ พระเทพวชิรนายก เจ้าคณะจังหวัดยะลา / เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ได้บรรยายธรรม ตอนหนึ่งความว่า “วันวิสาขบูชา มิได้เป็นเพียงวันแห่งพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่คือวันที่เราทุกคนควรย้อนระลึกถึงพระมหาบุรุษ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เปลี่ยนความมืดมนในใจมนุษย์ ให้เป็นแสงสว่างแห่งปัญญา พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในวันเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงวงจรของชีวิต — เกิด แก่ เจ็บ ตาย — ที่ไม่มีใครหลีกพ้น นอกจากนี้สิ่งที่พระองค์ทรงค้นพบ คือหนทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ ผ่านหลัก อริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุกข์ คือปัญหาหรือสิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจ, สมุทัย คือ สาเหตุของปัญหา, นิโรธ คือ เป้าหมายของการดับทุกข์ และมรรค คือ วิธีการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้พระองค์ทรงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยคุณ 3 ประการ ได้แก่พระปัญญาธิคุณ คือ ความรู้แจ้งในธรรม, พระบริสุทธิคุณ คือ ความบริสุทธิ์จากกิเลส และพระมหากรุณาธิคุณ คือ ความเมตตาไม่เลือกผู้ใด
🌕 นอกจากนี้ ธรรมเทศนา ของท่านเจ้าคณะจังหวัดยะลา ยังได้เน้นว่า “ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ขอให้พี่น้องชาวพุทธทุกคน ได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และน้อมนำหลักธรรม คำสอนของท่านมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต”




ข้อคิดที่ได้ คือ…ความทุกข์มีอยู่จริงในชีวิต แต่เราสามารถเรียนรู้ เข้าใจ และข้ามพ้นมันได้ จิตใจที่มีปัญญาและกรุณา คือจิตใจที่สร้างสันติทั้งภายในตนและต่อผู้อื่น การระลึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่ใช่แค่การกราบไหว้ แต่คือการดำเนินชีวิตตามทางแห่งธรรม
และท่านยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “ขอให้ทุกคนเริ่มต้นชีวิตด้วยปัญญา ดำรงชีวิตด้วยเมตตาเพื่อความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป”






0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไทยรัฐออนไลน์

โพสทูเดย์

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More