รอง มทภ.4 ย้ำ ชคต. ทุกพื้นที่คุมเข้มเฝ้าระวังให้พื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัย พร้อมกำชับกำลังพลใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างระมัดระวัง
เมื่อวันที่ (12 มิถุนายน 2566) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมไทยต้องเป็นไทย กองบังคับการควบคุมกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์ฝึกอบรมกองกำลังประจำถิ่นท่าสาป อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติ ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่สำคัญ โดยมี หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดยะลา,จังหวัดปัตตานี ,จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ก่อนการประชุมฯ มีการมอบรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 จังหวัดละ 1 รางวัล รวมทั้งสิ้น 4 รางวัล เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่
สำหรับการประชุมฯ ครั้งนี้ เป็นการรับฟังสรุปสถานการณ์และแนวโน้มสถานการณ์ รวมทั้งสรุปภาพรวมการปฏิบัติงานสำคัญ เพื่อการประเมินติดตามชุดคุ้มครองตำบลของคณะกรรมการระดับอำเภอในห้วงเดือนที่ผ่านมา ตลอดจนกำหนดแผนการตรวจประเมินในห้วงเดือนพฤษภาคม 2566 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับนโยบาย ข้อเสนอแนะ แนวทางการปฏิบัติงานในอนาคต และร่วมหารือปัญหาข้อขัดข้อง เพื่อสามารถปฏิบัติงานในทิศทางเดียวกัน เน้นสร้างความเชื่อมั่นศรัทธา ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในการดูแลพื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัยและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขอย่างแท้จริง
โอกาสนี้ พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวแสดงความยินดีกับเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลที่ได้รับรางวัลผลการปฏิบัติงานดีเด่น พร้อมย้ำว่าให้รักษามาตรฐานการปฏิบัติให้อยู่ในเกณฑ์ดีสม่ำเสมอ ขอให้ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมีสติ มีความรอบคอบและไม่ประมาทให้เกิดความปลอดภัย ลดการสูญเสีย ในชีวิต และทรัพย์สิน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลทุกพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการประชาสัมพันธ์ และรู้เท่าทันข่าวสารอย่างรอบคอบ และติดตามโซเชียลมีเดียอย่างมีสติ ห้ามกระทบต่อองค์กร ควบคู่กับภารกิจดูแลพื้นที่ให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมกำชับให้หมั่นฝึกซ้อมทบทวนการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอห้ามประมาท เพื่อป้องกัน บุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด รวมถึงคนร้ายที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กำลังพลจะต้องมีการปรับเปลี่ยน วางแผน ปรับตัว ให้สามารถทำงานในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่สอดคล้องกับนโยบายในการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นแก่พี่น้องประชาชน ในฐานะที่เราเป็นหน่วยปฏิบัติ เป็นข้าราชการของรัฐ, เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อการบําบัดทุกข์บํารุงสุขแก่พี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์
อย่างไรก็ตามขอให้ทุกหน่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยฐานปฏิบัติการ ให้มีการเตรียมความพร้อม ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุฯ อย่างต่อเนื่อง ให้พร้อมปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเคร่งครัด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น